ย้อนหลังไปเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว การสอนขายเสียง หรือการสอนให้เป็น Announcerนั้น ไม่มีการสอน คนที่ได้ลงเสียงก็จะเป็น โฆษก พิธีกร ดารา คนในแวดวงโฆษณา โปรดิวเซอร์รายการนั้นๆเอง คนที่ได้ยินเสียงสปอต หรืออยากจะมีเสียงตัวเองอยู่ในสปอตบ้าง แต่ตัวเองไม่ได้เรียนนิเทศ ไม่ได้ทำงานด้านโฆษณา ไม่มีเครือญาติอยู่ในวงการ ก็ไม่รู้จะทำยังไง ความฝันก็ยังเป็นความฝันต่อไป
เราพูดอย่างนั้นได้ เพราะเราเป็นคนยุคนั้น ยุคที่ไม่มีการสอนการเป็นAnnouncer เราอยากเป็นคนขายเสียง อยากเป็นคนอัดสปอต อยากเป็นคนใช้เสียงทำมาหากิน ก็ไม่รู้จะต้องทำยังไง?
ตอนแรกก็หลงทาง คิดว่า ตัวเองต้องไปทำงานรับโทรศัพท์ เพราะเราเสียงดี บางทีก็คิดว่า อยากเป็นนักร้อง เสียงเราดี น่าจะไปเป็นนักร้อง แต่พอได้เติบโต ถึงได้รู้ว่า เราได้ค้นพบ ว่า เสียงเราดี และงานที่เหมาะกับเราคือAnnouncer
จะว่าไป กว่าจะได้เป็น Announcer ของเรานั้นไม่ใช่เรื่อง ง่ายเลย จำได้ว่า ตอนแรกเราเป็น announcer ให้ทรู เพราะว่า คนเก่าลาออก เค้าหาคนใหม่ที่เสียงหวาน เสียงเพราะ เราก็ไปประกวดกับเค้า แล้วเราก็ได้
แรกๆ เสียงก็แปร๋น หูแตก พูดก็ยาน เสียงก็เพี้ยน เพราะดัดมาก ไปหาเรียนหาสอนที่ไหน ก็ไม่มีเกี่ยวกับอาชีพขายเสียง ตอนนััน มี Gen x เปิดสอน สอนพากย์หนัง พากย์การตูนส์ 9000 เรียนสิบชม(จำได้เลือนลาง) เราก็ไม่มีเงินเรียน บริษัทก็ไม่ได้มีงบให้ สุดท้าย เราก็ไม่ได้เรียน และก็ค่อยๆปรับๆ ไป เอา ปรับด้วยตัวเอง ฟังคอมเม้นท์จากคนรอบข้างบ้าง ศึกษาสไตส์การพูดจากในวิทยุ จากสื่อต่างๆ บ้าง บ้าง และปรับจนได้เวอร์ชั่นส์ที่ดีจนลูกค้าประทับใจ และมาใช้บริการเราโดยมีหลายบริษัทในไทย เข้ามาจ้างเรา เริ่มจากบริษัทเล็กๆ จนถึงบริษัทใหญ่ๆ อย่างเช่น ปตท. คิงพาวเวอร์ กระทิงแดง และอื่นๆอีกมากมาย ตอนนี้เสียงระบบอัตโนมัติในไทยกว่า 100 โอเปอร์เรเตอร์ เป็นเสียงเรา
เราเข้าสู่สายannouncer ครั้งแรกจากจากเป็นเสียงระบบตอบรับอัตโนมัติให้บริษัท ทรู ตามด้วยงาน Presentation บริษัท คุณเปิ้ล จารุณี และได้รับโอกาสจากพี่หมี โพลาสตูดิโอ ที่ให้โอกาสเราในการอัดเสียงสปอต อัดเสียงบรรยาย อัดสารคดี อัดอีเลินนิ่ง และเสียงบรรยายอื่นๆ และมีงานต่างๆเรื่อยมา
หลังจากนั้นเราไปจับงานสายพากย์เสียง โดยการชักจูงจากคุณโอ๋ (พากย์ทอมครูซ) ให้เราไปพากย์ทีมน้าบุญ ที่ ช่อง JKN การเข้าไปพากย์ในครั้งนั้น ทำให้เราได้มีโอกาส ได้พบน้าบุญ พี่ม๊อค พี่ปาน พี่ต๋อง พี่คม ได้พบนักพากย์อาชีพ เก่งๆ ทั้งนั้น เราได้มีโอกาสเรียนรู้วิชาอยู่ประมาณ 1 เดือน
จากจุดเริ่มต้นในครั้งนั้น ที่เราได้พบพี่ม๊อค พี่ต๋อง สองท่านนี้ให้งานเราเรื่อยๆๆมา แต่ด้วยความที่เรายังทำงานประจำอยู่ เราเลยคิดว่าจะไปเรียนเพิ่ม โดยไปเรียนกับน้าต่อ เรียนกับพี่เอ เรียนกับกลุ่มพิเศษของพี่เบิร์ด ต่อ เราค้นคว้า เพิ่มเติมมากมาย เพื่อจะได้พากย์ จนวันหนึ่งเราได้มีโอกาสพบนักพากย์ท่านหนึ่ง ท่านบอก “เรียนเท่าไร ก็เรียนกันไม่หมดหรอกวิชาพากย์ เรียนไม่สู้ทำ “
จากนั้นเราก็เก็ทเลยว่า การเรียนเป็นพื้นฐานที่ดีให้เราต่อยอดได้ถูกต้อง แต่การที่จะทำให้เราเก่งขึ้นได้คือ การที่เราต้องลงมือทำกับหน้างานจริง เหมือนตอนสมัยยังเด็ก คุณครูจะมีสอนเรา สอนเราเสร็จ ทำเป็นตัวอย่าง และ ให้การบ้าน เพื่อให้เราได้ฝึกทำ ทำเสร็จ ครูจะตรวจและบอกเราว่าควรแก้ไข ปรับปรุงยังไง
การลงมือทำ ทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้อย่างแท้จริง ทำให้เกิดความคิด ทำให้เกิดไอเดีย ทำให้เราทำเป็นจริงๆ จนวันหนึ่ง เรามีโอกาสได้มาเปิดครอส โดยคอนเซ็ป คือ สอนจากสิ่งเรารู้ สิ่งที่เราเชี่ยวชาญให้คนที่ไม่รู้ได้มีโอกาสรู้ และเป็นเหมือนเรา
ในสายของannouncer เราทำมาทั้งหมด 16 ปีแล้ว สายพากย์เราทำมาประมาณ 5 ปี (แบบไม่เต็มตัว)
เรารู้คำตอบเลยว่า เราจะสอนอะไร เราก็สอนสิ่งที่เราถนัด และเชี่ยวชาญที่สุด งานอะไรทำแล้วมีความสุข แถมได้เงินอีกตัว (ต่อให้ไม่ได้เงินก็ยังทำเลย) นั้นก็คือ อาชีพคนขายเสียงนั้นเอง
เราจึงเปิดครอสนี้ขึ้นมา How to be Announcer ขายเสียงเป็น เห็นเงินล้าน ชาว I-Voice เมื่อ 1 เมษายน ถึง 25 เมษายน มีลูกศิษย์ประมาณ 30 คน สามารถเริ่มต้นขายเสียงได้ 5 คน และสามารถเอาเสียงไปประกอบคลิปวีดีโอได้ อีกหลายคน และหลายคนนำวิธีการไปใช้ในสายงานพิธีกรได้
แต่ครั้งนั้นมีอุปสรรค หลายอย่าง เรื่อง ที่เราป่วยเข้าโรงพยาบาลระหว่างสอน /เรื่องงานที่เยอะมากตรวจการบ้านไม่ทันบ้าง/เรื่องการทำวีดีโอ ที่เรายังมือใหม่ ตัดต่อไม่ค่อยเก่ง /เรื่องหลักสูตรที่สอนเยอะวันมากเกินไป แรงจูงใจ ลูกศิษย์ตก
ทำให้หน่อยคิดว่า ไม่อยากจะเปิดหลักสูตรอีกต่อไป
แต่ทว่า ! ได้มีเสียงเรียกร้องเข้ามาทางอินบ๊อคและหน้าเพจทั้งส่วนตัวทั้งทาง
https://www.facebook.com/NewNoi-Announcer-Voice-Over-Artist-119123894891030/?fref=ts
ว่าอยากเรียน อยากมีโอกาส อยากเป็นคนอัดเสียง อยากขายเสียง อยากทำอาชีพนี้มานานแล้ว ต้องทำยังไง เค้าอยากมีโอกาส เสียงเรียกร้อง และ Passion ของแต่ละท่านเหล่านี้ จนหน่อยต้องมาทบทวนอีกครั้ง
หน่อยจึงได้ตัดสินใจ ถ้าจะเปิดอีกครั้ง หน่อยจะทำให้ดีกว่าเดิม โดยหน่อยได้ปรับปรุงหลักสูตรใหม่
ย่นระยะเวลาจากคลาสเดิม 25 วัน เหลือ 15 วัน ! แต่เนื้อหาแน่นขึ้น เข้มข้นขึ้นโดยมีการสอน และทำตัวอย่างให้ดูทั้งชาย หญิง ! มีแบบฝึกหัดจากสคริฟจริง ผ่านการบรีฟจริง ความต้องการจริงจากลูกค้า
เรียนครั้งเดียว ประกอบอาชีพขายเสียงได้ และ ปรึกษาได้ตลอดชีพ
ติดตามความคืบหน้าได้ในเร็วๆนี้
