ใครพากย์เก่งหรือเก่ง ไม่ได้วัดที่เด็กใคร แต่วัดกันที่ผลงาน และเสียงจากลูกค้า

มีคนฝากเราให้ไปบอก นักพากย์บางคน ว่า พากย์ไม่เข้าหน้า พากย์ไม่ถึง เสียงพากย์มันไม่เข้า พากย์ไม่ได้อารมณ์

เรา ตอบว่า เราอยู่วงการเดียวกัน  เราไปบอกอย่างนั้นไม่ได้ และเราไม่ใช่หัวหน้างาน เราไม่ใช่คนจ้างงาน หรือควบคุมเสียง เราไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่สามารถบอกเค้าอย่างนั้นได้ และนักพากย์ทุกคนมีความเป็นตัวของตัวเองสูง

เราต้องขออภัยคนที่มาพูดกับเราไป ว่า เราไปพูดไม่ได้

แต่ในอีกมุมหนึ่งก็คือ เสียงของคนดูที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย มันจะสะท้อนให้รู้ว่า ใครทำงานเป็นอย่างไร เก่งหรือไม่เก่งจริง บางชิ้นงาน เราอาจได้งานนั้น ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่คนดูคนฟัง ที่ไม่มีส่วนได้ ส่วนเสีย ตัววัดผลที่ชี้ขาด ว่า คุณพากย์เป็นยังไง 

ถ้าคุณชนะ คุณต้องชนะหัวใจผู้คน หัวใจคนดู ไม่ใช่ชนะใจเฉพาะเจ้าของงาน หรือหัวหน้างาน

การ ที่คุณได้พากย์งานนั้น แต่ยังมีสียงบ่น เสียงพร่ำจากคนอื่น ว่า คุณพากย์ไม่ได้ เรื่อง เสียงคุณไม่เข้าหน้า มีคนวิจารณ์เสียงคุณ โดยที่ไม่มีใครไปชี้นำอะไรเค้า นั่นแสดงให้เห็นว่า

 

คุณ(อาจ)พากย์เก่งไม่จริง” 

 

การ ยอมรับ ต้องมาจาก ลูกค้า หัวหน้าทีม หัวหน้างาน เพื่อน แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เสียงของคนดู เสียงของคนฟัง ที่เค้าไม่ได้มีส่วนดีส่วนเสียกับคุณ

คนที่เค้า มาดูหนัง แต่ต้องมาเจอเสียงทำเสียอรรถรส

คนที่เค้าดูหนัง แต่อารมณ์มันขัด คนเค้าหนีไป ดูซาวแทรคกันหมดดดด

—————————————————————————-